วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

การรักษาสมบัติส่วนรวม

การรักษาสมบัติส่วนรวม

                                                            การรักษาสมบัติส่วนรวม





1.1 การดูแลรักษาสมบัติของส่วนรวมในโรงเรียน คือ เมื่อมีการใช้แล้ว มีการเก็บรักษา ใช้แล้วเก็บเข้าที่เดิม การไม่ทิ้งเศษขยะในห้องเรียนและบริเวณโรงเรียน การไม่ขีดเขียนหรือทำลายวัสดุและอุปกรณ์ในห้องเรียนและในโรงเรียน เพื่อให้ของส่วนรวมอยู่ในสภาพดี เช่น การใช้ไม้กวาดแล้วเก็บเข้าที่เดิม การใช้หนังสือในห้องสมุดแล้วเก็บเข้าที่ การใช้อุปกรณ์กีฬาแล้วนำส่งคืน การใช้เครื่องคอมพิวเตอร์แล้วปิดเครื่องและจัดเข้าที่เดิม
     1.2 ลักษณะของการใช้ คือ การใช้ของส่วนรวมในโรงเรียนอย่างประหยัด ใช้อย่างทะนุถนอม ใช้อย่างระมัดระวัง เพื่อให้ของส่วนรวมมีความคงทนใช้ได้นาน เช่น การเปิดอ่านหนังสือเบาๆ การใช้แก้วน้ำรองน้ำดื่ม การปิดไฟและพัดลมก่อนออกจากห้อง การใช้แป้นเครื่องคอมพิวเตอร์เบาๆ
2. การถือเป็นหน้าที่ที่จะมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาของส่วนรวมในวิสัยที่ตนสามารถทำได้ หมายถึง พฤติกรรมที่แสดงออกถึง การมุ่งปฏิบัติเพื่อส่วนรวมในการดูแลรักษาของส่วนรวมในโรงเรียน ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนที่ตนสามารถทำได้ โดยวัดได้จาก 2 ตัวชี้วัด คือ


     2.1 การปฏิบัติตามหน้าที่ ที่ถูกกำหนดในการดูแลรักษาสมบัติของส่วนรวม ในโรงเรียน คือ การทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในการให้ดูแลรักษาสมบัติของโรงเรียน เช่น การทำหน้าที่เวรทำความสะอาดห้องเรียน การทำความสะอาดบริเวณโรงเรียนการดูแลห้องสมุด และการดูแลห้องปฏิบัติการอื่นๆที่ได้รับมอบหมาย
     2.2 การอาสาปฏิบัติหน้าที่บางอย่างเพื่อส่วนรวมในโรงเรียน คือ การช่วยทำหน้าที่อื่นที่ไม่ใช่หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในวิสัยที่ตนสามารถทำได้ เช่น การอาสานำขยะไปทิ้ง การอาสาช่วยเก็บสิ่งของ การอาสากวาดห้องเรียนหรือบริเวณโรงเรียน
3. การเคารพสิทธิในการใช้ของส่วนรวมในโรงเรียนที่ใช้ประโยชน์ร่วมกันของกลุ่มโดยไม่ยึดครองของส่วนรวมนั้นมาเป็นของตนเอง ตลอดจนไม่ปิดกั้นโอกาสของบุคคลอื่นที่จะใช้ของส่วนรวมนั้น หมายถึง พฤติกรรมที่แสดงออกถึง การเคารพสิทธิในการใช้ของส่วนรวม โดยวัดได้จาก 2 ตัวชี้วัด คือ
     3.1 การไม่ยึดครองของส่วนรวมในโรงเรียนมาเป็นสมบัติของตนเองคือ การไม่นำสมบัติของโรงเรียนมาเก็บไว้ที่ตน เช่น การไม่นำสีของโรงเรียนไประบายภาพที่บ้านการไม่นำอุปกรณ์กีฬาไปเล่นที่บ้าน
     3.2 การแบ่งปัน หรือการเปิดโอกาสให้ผู้อื่นได้ใช้ของส่วนรวมในโรงเรียน คือ การแบ่งปันสิ่งของกับผู้อื่น การไม่แสดงอาการหึงหวงสมบัติของส่วนรวม เช่น การไม่นำหนังสือห้องสมุดมาเก็บไว้ที่ตนหลายๆ เล่ม การเปลี่ยนให้เพื่อนใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เมื่อตนใช้เสร็จ

ประหยัดน้ำแบ่งปันน้ำใจ

  วิธีประหยัดน้ำ เพื่อช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำ ให้มีไว้ใช้ได้นานจนถึงรุ่นลูกหลาน แถมยังประหยัดเงินค่าน้ำที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือน

         วิธีประหยัดน้ำ สิ่งที่ใคร ๆ ก็ทำได้ แต่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร แล้วสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้เรียกว่าการช่วยประหยัดน้ำได้หรือเปล่า กระปุกดอทคอมเลยรวบรวม 15 วิธีประหยัดน้ำมาฝากกัน เพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนน้ำถือเป็นปัญหาเข้าขั้นวิกฤตที่เกิดขึ้นกับทุกประเทศ ก่อนที่เราจะไม่มีนำไว้ใช้อีกต่อไป แถมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้อีกทางหนึ่งด้วยนะ 

1. เช็คท่อน้ำและก๊อกน้ำ

         รู้ไหมคะว่าน้ำหยดเล็ก ๆ จากท่อน้ำหรือก๊อกน้ำที่ติดตั้งไม่แน่นนั้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ซ่อมแซมในแต่ละวันนั้นจะสูญเสียน้ำไปประมาณ 75 ลิตร และถ้าท่อน้ำมีขนาดใหญ่จะเสียน้ำไปโดยเปล่าประโยชน์ถึง 387 ลิตร คิดูสิคะว่ามันมากมายแค่ไหน 

2. ไม่ทิ้งขยะลงชักโครก

         การทิ้งขยะลงชักโครกนอกจากจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ชักโครกตันแล้วยังเป็นการสิ้นเปลืองน้ำอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผ้าอนามัย กระดาษชำระ หรือก้นบุหรี่ที่ถูกท้งลงไป จะต้องใช้น้ำปริมาณมากทีเดียวในการชำระล้างไม่ให้เหลือซาก 

15 วิธีประหยัดน้ำง่าย ๆ เริ่มทำได้จากในบ้าน
3. ตรวจเช็คถังเก็บน้ำชักโครกเสมอ 
         หากถังเก็บน้ำชักโครกรั่วจะทำให้มีน้ำไหลลงชักโครกอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นแล้วควรหมั่นตรวจเช็คเป็นประจำ โดยการใส่สีผสมอาหารลงไปในถังเก็บน้ำชักโครกแล้วกดน้ำทิ้ง และหลังจากกดน้ำไปแล้วประมาณ 30 วินาทียังมีน้ำไหลออกมา แสดงว่าถังเก็บน้ำชักโครกชำรุด ต้องรีบซ่อมแซมโดยด่วน

4. ปิดน้ำระหว่างแปรงฟัน

         หลาย ๆ คนมักจะเผลอเปิดน้ำขณะแปรงฟัน เพราะคิดว่าคงจะไม่สิ้นเปลืองอะไรมากมาย โดยที่ไม่รู้เลยว่าการทำเช่นนี้ทำให้เสียน้ำไปถึง 200 แกลลอนหรือ 757 ลิตรโดยเปล่าประโยชน์ ซึ่งเทียบเท่ากับสะรขนาดใหญ่ที่สามารถใช้เลี้ยงฉลามได้ถึง 6 ตัวเลยทีเดียว 

5. ปิดน้ำระหว่างถูสบู่

         จะเปิดน้ำทิ้งไปทำไมหากในระหว่างที่สระผมหรือถูสบู่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำอยู่แล้ว ฉะนั้นจึงควรปิดน้ำให้สนิทเสียก่อน แล้วค่อยเปิดน้ำอีกครั้งหลังจากชำระร่างกายด้วยสบู่เสร็จ 

6. อาบน้ำให้เร็วขึ้น

         เพราะในการอาบน้ำแค่ 4 นาทีเท่ากับการใช้น้ำไป 75–150 ลิตร ซึ่งถ้าอาบนานกว่านี้ปริมาณของน้ำที่ต้องใช้ก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นแล้วควรอาบน้ำให้เร็วขึ้นอีกนิด ใช้เวลาให้น้อยลง เพื่อช่วยกันประหยัดทรัพยากรน้ำไว้ใช้ในภายภาคหน้า
15 วิธีประหยัดน้ำง่าย ๆ เริ่มทำได้จากในบ้าน

7. อาบน้ำโดยใช้ฝักบัว

         หลายคนคงชอบนอนแช่ในอ่างอาบน้ำ แต่หลังจากนอนแช่ในอ่างเสร็จก็ต้องมาล้างตัวด้วยน้ำสะอาดอีกรอบอยู่ดี ซึ่งเท่ากับว่าใช้น้ำเป็น 2 เท่าเลยทีเดียว ฉะนั้นเปลี่ยนมาอาบน้ำโดยใช้ฝักบัวจะช่วยประหยัดได้มากกว่าเยอะเลย 

8. เปลี่ยนวิธีล้างจาน

         หลาย ๆ คนอาจจะชินกับการเปิดน้ำไหลผ่านเพื่อล้างฟองสบู่ แต่กว่าจานจะสะอาดก็ต้องเสียน้ำไปมากเหมือนกัน เลยอยากแนะนำให้รองน้ำใส่กะละมังหรือซิงค์เอาไว้ก่อนแล้วค่อยนำจานมาล้าง ซึ่งวิธีนี้ทำให้จานสะอาดมากกว่า แถมยังใช้น้ำในการล้างจานน้อยกว่าด้วย

9. ไม่เปิดน้ำไหลผ่านผักและผลไม้

         เช่นเดียวกับการล้างจาน การเปิดน้ำให้ไหลผ่านผักและผลไม้ต้องใช้น้ำเยอะและอาจจะล้างผักผลไม้ได้ไม่สะอาด ฉะนั้นจึงแนะนำให้ล้างโดยการเปิดน้ำใส่ซิงค์หรือกะละมังแล้วนำผักกับผลไม้แช่ลงไปดีกว่า 

10. ปลูกหญ้ารอบโคนต้นไม้

         การปลูกหญ้ารอบโคนต้นไม้จะช่วยชะลอการระเหยน้ำ ถ้าบริเวณที่ปลูกต้นไม้มีแค่ดินหรือมีหญ้าเป็นหย่อม ๆ น้ำจะระเหยเร็วมากหลังจากรดน้ำต้นไม้ ทำให้ต้นไม้ได้รับน้ำไม่เพียงพอ เหี่ยวเฉา และต้องรดใหม่อีกรอบ
15 วิธีประหยัดน้ำง่าย ๆ เริ่มทำได้จากในบ้าน

11. ล้างรถให้ถูกวิธี

         การล้างรถอย่างถูกวิธีก็เป็นอีกหนึ่งหนทางที่จะช่วยประหยัดน้ำได้ โดยการล้างรถจากส่วนบนมาส่วนล่างและใช้ถังน้ำแทนสายยางจะช่วยประหยัดน้ำได้มากกว่า แถมหลังจากนี้ก็จะได้ไม่ต้องตกใจกับค่าน้ำแพง ๆ ในแต่ละเดือนอีกต่อไปแล้วด้วย 

12. ซักผ้าครั้งละมาก ๆ

         การซักผ้าครั้งละน้อยชิ้นจะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมากเพราะต้องทยอยซักเรื่อย ๆ ซึ่งเมื่อนำปริมาณน้ำซักผ้ามาคิดรวมกันแล้วจะมากกว่าการซักครั้งเดียวรวมกันหลายเท่า ฉะนั้นแล้วควรเก็บไว้ซักพร้อมกันอาจจะซักผ้าแค่ 1 หรือ 2 ครั้งต่อสัปดาห์

13. ตรวจสอบมิเตอร์น้ำ

         การตรวจสอบมิเตอร์น้ำเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้รู้ว่าแต่ละเดือนนั้นใช้น้ำไปเท่าไรแล้ว ยังสามารถเช็คน้ำรั่วได้อีกทางหนึ่งด้วย โดยให้ปิดน้ำแล้วไปเช็คมิเตอร์ ถ้ามิเตอร์ยังเพิ่มแสดงว่ามีน้ำรั่ว และถ้าเจอก็รีบให้ซ่อมแซมเสียนะคะ ก่อนที่จะเสียน้ำไปมากกว่านี้ 



วันจันทร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2560

อากาศช่วงนี้เพื่อนๆ สังเกตมั้ยครับว่า อุณหภูมิในบ้านเรามันร้อนขึ้นเรื่อยๆ หน้าหนาวก็หนาวไม่กี่วัน ส่วนหน้าร้อนก็ร้อนจนตับจะแตก แถมร้อนขึ้นทุกปีด้วย ซึ่งภาวะแบบนี้เราเรียกว่า “ภาวะโลกร้อน” หรือเรียกกันแบบสากลว่า “Global Warming” นั่นเอง ซึ่งภาวะโลกร้อนนี้ก็คือ การที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกเพิ่มขึ้น จากผลของภาวะเรือนกระจก หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อว่า Greenhouse Effect นั่นเอง
ถ้าพูดกันจริงๆ แล้ว สาเหตุหลักของการเกิด ภาวะโลกร้อน นี้ก็ไม่ใช่ใครครับ ก็คือ มนุษย์ครับ ที่เป็นต้นเหตุในการเพิ่มปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการเผาไหม้ เชื้อเพลิงต่างๆ การขนส่ง และการผลิต ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมไปถึงการเพิ่มก๊าซกลุ่มไนตรัส- ออกไซด์ และคลอโรฟลูออโรคาร์บอน (CFC) เข้าไปในชั้นบรรยากาศ พร้อมๆ กับการตัดไม้ ทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง
25-1741772-digital tv_fct1024x630x43_t460
1. เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้ ก็ปิดซะ
ลดการใช้พลังงานในบ้าน ด้วยการปิดโทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เมื่อไม่ได้ใช้งาน จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 455 กิโลกรัมต่อปี
81270203
2. แค่ปิดคงไม่พอ โหมดสแตนด์บายยังกินไฟอยู่ ถอดปลั๊กจะดีกว่านะ
ลดการสูญเสียพลังงานในโหมดสแตนด์บาย เครื่องเสียงระบบไฮไฟ โทรทัศน์ เครื่องบันทึกวิดีโอ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และอุปกรณ์พ่วงต่างๆ ที่ติดมา ด้วยการดึงปลั๊กออก หรือใช้ปลั๊กเสียบพ่วงอุปกรณ์ตัดไฟอัตโนมัติ
Leuchtstofflampen-chtaube050409
3. หลอดไส้เปลืองไฟน่าดู ใช้หลอดฟลูออเรสเซนต์ดีกว่า
เปลี่ยนหลอดไฟจากหลอดไส้ เป็นหลอดฟลูออเรสเซนต์ 1 ดวง จะช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 68 กิโลกรัมต่อปี แถมยังช่วยประหยัดการใช้พลังงานอีกด้วย เงินในกระเป๋าคุณเหลือเยอะขึ้นเลยล่ะ
refrigerator-stainless-french-door-kitchenaid_6f5d3224f560e29876c201a14c2a82c0_3x2
4. ใช้งานตู้เย็นที่บ้านให้ถูกวิธี
ประหยัดพลังงานให้ตู้เย็น ด้วยการใช้อย่างฉลาด ไม่นำอาหารร้อนเข้าตู้เย็นทันที ควรรอให้เย็นก่อน หลีกเลี่ยงการนำถุงพลาสติกใส่ของในตู้เย็น เพราะจะทำให้ตู้เย็นจ่ายความเย็นได้ไม่ทั่วถึงอาหาร ควรย้ายตู้เย็นออกจากห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศ และอย่าลืมละลายน้ำแข็งที่เกาะในตู้เย็นเป็นประจำ เพราะตู้เย็นจะกินไฟมากขึ้นเมื่อมีน้ำแข็งเกาะ ควรทำความสะอาดตู้เย็นทุกสัปดาห์
clothesline
5. อากาศดีๆ ก็เอาเสื้อผ้ามาตากฆ่าเชื้อโรคซะบ้าง
ควรตากเสื้อผ้าที่ซักแล้วให้แห้ง ด้วยแสงแดดธรรมชาติ ช่วยทำลายเชื้อโรค และช่วยประหยัดไฟฟ้าอีกด้วย ไม่ควรใช้เครื่องปั่นผ้าแห้งหากไม่จำเป็น
mtr2004
6. ขี่จักรยาน ประหยัดพลังงาน แถมได้สุขภาพดี
รถยนต์ส่วนตัวจอดไว้ที่บ้านบ้างก็ได้ แล้วออกมาขี่จักรยาน ใช้รถโดยสารประจำทาง หรือเดินเมื่อต้อง ไปทำกิจกรรม หรือธุระใกล้ๆ บ้าน เพราะการขับรถยนต์น้อยลง หมายถึงการใช้น้ำมันลดลง และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย เพราะน้ำมันทุกๆ 3.785 ลิตร (1 แกลลอน) ที่ประหยัดได้ จะลดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ ประมาณ 9 กิโลกรัมเลยนะ
Gasohol
7. เติมน้ำมันชีวภาพ รักษาสิ่งแวดล้อม
เปลี่ยนมาใช้พลังงานชีวภาพ เช่น ไบโอดีเซล เอทานอล ให้มากขึ้นเพื่อลดการใช้พลังงานประเภทน้ำมัน แถมราคาถูกกว่าด้วย
Mirage-ES-Red-Planet-1_1024-620x414
8. eco-car ประหยัดพลังงานช่วยชาติ
เลือกซื้อรถยนต์ที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดครอบครัว และประโยชน์ในการใช้งาน รวมทั้งเลือกรุ่นที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เพื่อโลก และตัวคุณเอง
Driving: Driver Ignores Friend with Phone
9. ทางเดียวกัน ไปด้วยกัน
บ้านใกล้กันไปด้วยกันสิ ร่วมกันประหยัดน้ำมันแบบ Car Pool ช่วยประหยัดน้ำมันและยังเป็นการลดจำนวนรถติดบนถนนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ทางอ้อม แถมที่สำคัญ ยังได้เพื่อนใหม่ด้วยนะเออ (แต่อย่าเล่นโทรศัพท์ขณะขับรถนะครับ โดนจับปรับไม่รู้นะ)
drive-slow
10. จะขับรถเร็วไปไหน ขับ 90 ชิวๆ สบายใจกว่า
เผื่อเวลาก่อนออกจากบ้าน ขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในระยะทางไกล จะช่วยลดการใช้ น้ำมันลงได้ 20% หรือคิดเป็นปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ลดได้ 1 ตัน ต่อรถยนต์แต่ละคัน ที่ใช้งานราว 3 หมื่นกิโลเมตรต่อปีเลยนะ
เป็นยังไงกันบ้างครับกับวิธีลดภาวะโลกร้อนภาคแรก ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ที่ใครก็ทำได้ ถ้าหากเราช่วยกันคนละไม้ละมือรับรองว่าอากาศในโลกใบนี้จะน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะเลย